น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ

น้ำแตงโม


ส่วนผสมเนื้อแตงโม 50 กรัม ( 5 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5ช้อนชา)
น้ำเปล่าต้มสุก 150 กรัม (10 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำเนื้อแตงโม น้ำ น้ำเชื่อม เกลือ ใส่ในเครื่องปั่น นำไปปั้นให้ละเอียด ชิมรสตามชอบ


ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วย ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ปากเป็นแผล แก้ร้อนใน แก้ กระหายน้ำ



น้ำเชอร์รี่
ส่วนผสมเชอรี่ 100 กรัม (7 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม(1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
เลือกเชอรี่เด็ดก้านล้างให้สะอาด นำไปใส่เครื่องปั่นใส่น้ำต้มครึ่งหนึ่ง ปั่นให้ละเอียดนำไปกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำเปล่าต้มสุกส่วนที่เหลือใส่ลง ไปคั้นกับกากเชอรี่ให้แห้งมากที่สุดนำน้ำเชอรี่ที่คั้นได้ใส่น้ำเชื่อมเติมเกลือ ชิมรสตามชอบ

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันโรคเลือดออก ตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง





น้ำฝรั่ง
ส่วนผสม
ฝรั่งแก่จัด (หันชินเล็ก ๆ) 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเล็กน้อย 2 กรัม (2/5 ช้อนชา)

วิธีทำ

เลือกฝรั่งที่แก่จัด ล้างน้ำสะอาด ฝานเฉพาะเนื้อชิ้นเล็ก ๆ นำใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ปั่นจนละเอียด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นเล็กน้อย ชิมรสตามใจชอบ

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และมีสารเบต้า-คาโรทีน ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ทั้งยังป้องกันไม่ให้ไขมันจับที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดแข็งตัว

คุณค่าทางยาช่วยลดระดับไขมันในเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วย เส้นเลือดอุดตัน
 
 

น้ำกระเจี๊ยบ
ส่วนผสม
ดอกกระเจี๊ยบสด/แห้ง 20 กรัม (5 ดอก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนคาว)

วิธีทำ
1 เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาดนำใส่หม้อ ต้มจนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อน ๆ เคี่ยวเรื่อย ๆ จนน้ำเป็นสีแดง จนเข้มข้น
2. เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อมและเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด 1 นาที ก็ยกลง ชิมรสตามใจชอบ
3. เอาขวดแม่โขงมาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที นำ น้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอก แล้วปิดจุกให้แน่น เก็บไว้ได้นาน (ควร แช่ในตู้เย็น)
หรืออีกวิธีหนึ่ง นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิกรัม )

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหารให้วิตามินเอสูงมาก ซึ่งช่วยบำรุงสายตารอง ลงมามีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต เป็นยาระบาย อ่อนๆ และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ

 

น้ำมะเฟือง
ส่วนผสม
มะเฟืองหั่น 40 กรัม (1 ผลเล็ก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)

วิธีทำ
ล้างมะเฟืองที่แก่จัดให้สะอาด หั่น แกะเมล็ดออกแล้วนำใส่เครื่องปั่น เติม น้ำสุกปั่นละเอียดแล้วเติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมดูรสตามใจชอบ ถ้าต้องการเก็บ ไว้ดื่ม ให้ตั้งไฟให้เดือด 3-5 นาที กรอกใส่ขวด นึ่ง 20-30 นาที เย็นแล้วเข้า ตู้เย็น จะได้น้ำมะเฟืองสีเหลืองอ่อนๆ ดื่มแล้วชื่นใจ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร น้ำมะเฟืองมีสีเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นหอม ประกอบ ด้วยคุณค่าของวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส และแคลเซียมเล็กน้อย
คุณค่าทางยาเป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง ขับปัสสาวะ รวมทั้งป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
น้ำมะม่วง
ส่วนผสม
เนื้อมะม่วงดิบ 100 กรัม (ครึ่งผลเล็ก)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่น 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)

วิธีทำ

เตรียมวิธีที่ 1 ใช้มะม่วงดิบ เช่น มะม่วงแก้วหรือมะม่วงแรด เป็นมะม่วง ที่มีรสเปรี้ยวไม่มากนัก จะได้น้ำมะม่วงที่มีรสกลมกล่อม ปอกเปลือกมะม่วงออก ล้างน้ำ สับให้เป็นเส้นๆ เล็กๆ คั้นกับน้ำสุก กรองด้วยผ้าขาวบาง เอากากออก เติม น้ำเชื่อม เกลือป่น ชิมดูตามใจชอบ ใส่น้ำแข็งดื่มจะได้น้ำมะม่วงใส สีขาวนวล มีรส หวานอมเปรี้ยว
เตรียมวิธีที่ 2 ใช้มะม่วงดิบ เหมือนกับวิธีที่ 1 คือสับเนื้อมะม่วงให้เป็น เส้นๆ ปั่นให้ละเอียด เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม และเกลือป่นตามต้องการ ชิมดูรสตาม ใจชอบ น้ำมะม่วงที่เตรียมวิธีนี้จะขุ่นขาว เพราะมีเนื้อมะม่วงป่นอยู่
เตรียมวิธีที่3 ใช้มะม่วงสุก ล้างมะม่วงให้สะอาด ปอกเปลือก ฝานเนื้อเข้า เครื่องปั่น เดิมน้ำสุก เติมเกลือเล็กน้อย ชิมดูตามต้องการ ถ้าต้องการหวานให้เติม น้ำเชื่อมลงไป
น้ำมะม่วงควรเตรียมและดื่มให้หมดใน 1 วัน

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกัน โรคเลือดออกตามไรฟันและยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม และเหล็กเล็กน้อย
คุณค่าทางยาเป็นยาระบายอ่อน ๆ
น้ำสัปรด
ส่วนผสม
น้ำสับปะรด 240 กรัม (1/4 ผลใหญ่)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
นำสับปะรดล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วล้างอีกครั้ง คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสมากช่วยบำรุงกระดูก และฟันรองลงมามีวิตามินซีช่วยป้องกันโรคเลือด ออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง ลดอาการ อักเสบ บวม ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ช่วยขับ เสมหะ
น้ำส้มคั้น
ส่วนผสม
ส้มเขียวหวาน 220 กรัม (3 ผลขนาดกลาง)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)

วิธีทำ

นำส้มมาล้างเปลือกให้สะอาดใช้มีดผ่าขวางลูก คั้นเอาแต่น้ำ เติมเกลือ ตักเอาเมล็ดออก ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอมาก ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุง กระดูก และ ฟัน
คุณค่าทางยาป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตาม ไรฟัน
น้ำขิง
ส่วนผสม
ขิงสด 15 กรัม (ขนาด 1” x 15” 5 ชิ้น)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ

นำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นใส่หม้อใส่น้ำ ตั้งไฟต้ม น้ำจนเดือดสักครู่ยกลง กรองเอาขิงออก ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ หรืออีกวิธีหนึ่ง ใช้เหง้าขิงแก่ฝนกับน้ำมะนาว ใช้กวาดคอ หรือใช้ เหง้าขิงสดตำผสมน้ำเล็กน้อย นั้นเอาน้ำและใส่เกลือนิดหน่อยใช้จิบบ่อย ๆ

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร พรั่งพร้อมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น มีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยัง มีสารเบต้า-แคโรทีนอีกด้วยซึ่งช่วยต้านโรคมะเร็ง
คุณค่าทางยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม และขับเสมหะ แก้อาการ คลื่นไส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยเจริญอาหาร กินข้าวได้นอกจากนั้นยังลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยย่อยอาหารโดยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อย ต่าง ๆ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
น้ำตระไคร้

ส่วนผสม
ตะไคร้ 20 กรัม (1 ต้น)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)

วิธีทำ
นำตะไคร้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้น ทับให้แตก ใส่หม้อต้มกับ น้ำให้เดือดกระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำจนเป็นสีเขียว สักครู่จึงยกลง กรองเอาตะไคร้ออก เติมน้ำเชื่อมชิมรสตามชอบหรืออาจเอาเหง้าแก่ที่อยู่ใต้ดิน ล้างให้สะอาด ฐานเป็นแว่นบาง ๆ คั่วไฟอ่อน ๆ พอเหลือง ชงเป็นชา ดื่มวันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ถ้วยชา จะช่วยขับปัสสาวะให้สะดวก

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยัง แคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วย เพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร
คุณค่าทางยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับ ปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดีช่วยลดพิษของสารแปลก ปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิต
น้ำมะขาม
ส่วนผสม
เนื้อมะขามสด หรือเปียก 20 กรัม (2 ฝักใหญ่)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5ช้อนชา)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)

วิธีทำ

นำมะขามสดไปลวกในน้ำต้มเดือด ตักขึ้นแกะเอาแต่เนื้อมะขาม นำไป ต้มกับน้ำตามส่วนผสม
ให้เดือด เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ แต่ถ้าใช้มะขามเปียก ควรแช่น้ำไว้สัก 1/2 ชั่วโมง เพื่อให้มะขามเปียก เปื่อยยุ่ยออกมารวมกับน้ำ ก่อนนำไปต้มจนเดือด แล้วปรุงด้วยน้ำเชื่อม และเกลือ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมีแคลเซียมช่วย บำรงกระดูก รวมทั้งแก้กระหายน้ำ

คุณค่าทางยาช่วยขับเสมหะ แก้ไอ เป็นยาระบายท้อง ช่วยการ ขับถ่ายได้ดี ลดอาการโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน